วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

4.คุณลักษณะของ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนสามัญ บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด

ลักษณะของห้างหุ้นส่วนสามัญ
ห้างหุ้นส่วนจะมีต้องมีบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงใจมาเข้ากันเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน โดยประสงค์จะแบ่งผลกำไรที่พึงได้จากกิจกรรมที่ทำนั้น  ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เรียกว่า “ห้างหุ้นส่วน” การเป็นห้างหุ้นส่วนกฎหมายไม่บังคับให้จะทะเบียน  จะจดหรือไม่จดทะเบียนก็ได้      ถ้าไม่จดทะเบียนเรียกว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญ”  แต่ถ้าจดทะเบียนกับนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทเรียกวา “ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล”  หรือ “ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน”
ลักษณะของกิจการบริษัทจำกัด

      บริษัทจำกัด คือ  บริษัทประเภทซึ่งตั้งขึ้นด้วยการแบ่งทุนออกเป็นหุ้นมีมูลค่าเท่าๆกันผู้ถือหุ้นต่างรับผิดชอบจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือมีลักษณะสำคัญดังนี้

1. มีการแบ่งทุนออกเป็นหุ้นมีมูลค่าเท่าๆ กัน อันเป็นการแตกต่างกับหุ้นในห้างหุ้นส่วนสามัญและห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งอาจมีมูลค่าไม่เท่ากัน มูลค่าของหุ้นหนึ่งๆ ในบริษัทจำกัดนั้นต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท

2. มีผู้ถือหุ้นไม่ถึง 100 คนรวมทั้งนิติบุคคล ถ้ามีบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ถือหุ้นหุ้นเดียวร่วมกัน ให้นับเป็นผู้ถือหุ้น 1 คน นับตั้งแต่วันหรือหลังวันที่พระราชบัญญัติมหาชนจำกัด พ.ศ. 2521 ใช้บังคับ บริษัทใดซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมีผู้ถือหุ้นไม่ถึง 100 คน แต่ภายหลังมีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องดำเนินการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด หรือลดจำนวนผู้ถือหุ้นให้เหลือไม่ถึงจำนวน 100 คน ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่บริษัทนั้นมีผู้ถือหุ้นเกินจำนวนดังกล่าว

3. ผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดต่างรับผิดจำกัดไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ เช่นหุ้นในบริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง มีมูลค่าหุ้นละ 100 บาท นายแดงถือหุ้นจำนวน 1 หุ้น ได้ชำระค่าหุ้นไปแล้ว 75 บาท จึงยังคงต้องรับผิดส่งเงินใช้ค่าหุ้นอีกเพียง 25 บาทเท่านั้น

4. คุณสมบัติของผู้ถือหุ้นไม่เป็นข้อสาระสำคัญ แม้ผู้ถือหุ้นคนใดตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ บริษัทจำกัดนั้นก็ไม่เลิกกัน ผู้ถือหุ้นสามารถโอนหุ้นของตนให้แก่บุคคลอื่นได้ โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมของบริษัท เว้นแต่จะเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้น ซึ่งมีข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น นอกจากนี้ถ้าผู้ถือหุ้นของบริษัทตาย ทายาทของผู้ถือหุ้นนั้นก็รับมรดกเป็นผู้ถือหุ้นต่อไปได้ โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากบริษัท

ลักษณะของบริษัทมหาชนจำกัด 
บริษัทมหาชนจำกัด คือ บริษัทประเภทซึ่งตั้งขึ้นด้วยประสงค์ที่จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชน โดยผู้ถือหุ้นมีความรับผิดจำกัดไม่เกินจำนวนเงินค่าหุ้นที่ต้องชำระ และบริษัทดังกล่าวได้ระบุความ ประสงค์เช่นนั้นไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ
อาจสรุปได้ว่า พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ได้กำหนดลักษณะโครงสร้างของบริษัทมหาชนจำกัดไว้ ดังนี้
1. จำนวนผู้ถือหุ้น มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป
2. ทุนจดทะเบียน ไม่มีการกำหนดจำนวนทุนจดทะเบียนขั้นต่ำไว้
3. มูลค่าหุ้นและการชำระเงินค่าหุ้น หุ้นของบริษัทมหาชนจำกัดแต่ละหุ้นจะต้องมีมูลค่าเท่ากัน และต้องชำระค่าหุ้นครั้งเดียวเต็มมูลค่าหุ้น
4. จำนวนกรรมการ ต้องมีจำนวนกรรมการของบริษัทไม่น้อยกว่า 5 คน และกรรมการไม่น้อย กว่ากึ่งหนึ่งต้องมีที่อยู่ในประเทศไทย

3.อาชญากรรมคอมพิวเตอร์

อาชญากรรมคอมพิวเตอร์คือ ผู้กระทำผิดกฎหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นส่วนสำคัญ มีการจำแนกไว้ดังนี้
1.Novice เป็นพวกเด็กหัดใหม่(newbies)ที่เพิ่งเริ่มหัดใช้คอมพิวเตอร์มาได้ไม่นาน หรืออาจหมายถึงพวกที่เพิ่งได้รับความไว้วางใจให้เข้าสู่ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

2.Darnged person คือ พวกจิตวิปริต ผิดปกติ มีลักษณะเป็นพวกชอบความรุนแรง และอันตราย มักเป็นพวกที่ชอบทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าไม่ว่าจะเป็นบุคคล สิ่งของ หรือสภาพแวดล้อม

3.Organized Crime พวกนี้เป็นกลุ่มอาชญากรที่ร่วมมือกันทำผิดในลักษณะขององค์กรใหญ่ๆ ที่มีระบบ พวกเขาจะใช้คอมพิวเตอร์ที่ต่างกัน โดยส่วนหนึ่งอาจใช้เป็นเครื่องหาข่าวสาร เหมือนองค์กรธุรกิจทั่วไป อีกส่วนหนึ่งก็จะใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นตัวประกอบสำคัญในการก่ออาชญากรรม หรือใช้เทคโนโลยีกลบเกลื่อนร่องร่อย ให้รอดพ้นจากเจ้าหน้าที่

4.Career Criminal พวกอาชญากรมืออาชีพ เป็นกลุ่มอาชญากรคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่มาก กลุ่มนี้น่าเป็นห่วงมากที่สุด เนื่องจากนับวันจะทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจับผิดแล้วจับผิดเล่า บ่อยครั้ง
5. Com Artist คือพวกหัวพัฒนา เป็นพวกที่ชอบความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตน อาชญากรประเภทนี้จะใช้ความก้าวหน้า เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และความรู้ของตนเพื่อหาเงินมิชอบทางกฎหมาย

6.Dreamer พวกบ้าลัทธิ เป็นพวกที่คอยทำผิดเนื่องจากมีความเชื่อถือสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างรุ่นแรง

7.Cracker หมายถึง ผู้ที่มีความรู้และทักษะทางคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี จนสามารถลักลอบเข้าสู่ระบบได้ โดยมีวัตถุประสงค์เข้าไปหาผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง มักเข้าไปทำลายหรือลบไฟล์ หรือทำให้คอมพิวเตอร์ใช้การไม่ได้ รวมถึงทำลายระบบปฏิบัติการ

2. นิติกรรม แบบนิติกรรม ความสมบูรณ์ของนิติกรรม

นิติกรรม  หมายความว่าการใด ๆ อันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยใจสมัคร  มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล  เพื่อจะก่อ  เปลี่ยนแปลง  โอน สงวน  หรือระงับซึ่งสิทธิ

แบบของนิติกรรม หรือกรอบพิธีภายนอกของนิติกรรมนั้น  โดยหลักแล้วแม้นิติกรรมจะสมบูรณ์เมื่อมีการแสดงเจตนาก็ตาม  แต่การแสดงเจตนาอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ต้องทำตามแบบหรือกรอบพิธีภายนอกของนิติกรรมเสียก่อน  มิฉะนั้นมีผลเป็นโมฆะ
กล่าวโดยสรุป  แบบของนิติกรรม  หมายถึงวิธีการหรือพิธีการที่กฎหมายกำหนดและบังคับให้ผู้แสดงเจตนาทำนิติกรรมต้องปฏิบัติตาม  เพื่อความสมบูรณ์ของนิติกรรมที่ทำ
อย่างไรก็ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดแบบนิติกรรมในทุกเรื่อง  หากนิติกรรมใดกฎหมายไม่ได้กำหนดแบบไว้  นิติกรรมนั้นอาจสมบูรณ์ได้เพียงการแสดงเจตนา
ตัวอย่าง  เช่นต้องการซื้อข้าวผัด  1  ห่อ  เพียงสั่งข้าวผัดและคนขายผัดข้าวผัดส่งให้  เป็นการแสดงเจตนาด้วยวาจา  เพียงเท่านี้นิติกรรมซื้อขายข้าวผัดก็เกิดแล้ว กฎหมายไม่ได้กำหนดแบบของนิติกรรม

ความสมบูรณ์ของนิติกรรม ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของนิติกรรมว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
วัตถุประสงค์ของนิติกรรม คือ ประโยชน์อันเป็นผลสุดท้ายที่ผู้แสดงเจตนาทำนิติกรรมประสงค์จะให้เกิดขึ้น หรือเป็นผลที่เกิดขึ้นมาจากนิติกรรมที่ตนแสดงเจตนา เช่น การซื้อปืนมาก็เพื่อจะได้กรรมสิทธิ์ ดังนั้น วัตถุประสงค์ในการซื้อปืนก็คือกรรมสิทธิ์ในตัวปืน
ส่วนมูลเหตุชักจูงใจให้ทำนิติกรรม คือ สิ่งที่เป็นมูลเหตุให้มีการทำนิติกรรม เช่น ผู้ซื้อซื้อปืนมาก็เพื่อใช้ยิงสัตว์, แข่งขันกีฬา หรือนำไปฆ่าคน ซึ่งโดยปกติแล้วมูลเหตุชักจูงใจจะเป็นเรื่องภายในจิตใจของผู้ทำนิติกรรม
ดังนั้นกฎหมายจึงพิจารณาเพียงวัตถุประสงค์ของนิติกรรมเท่านั้นในการพิจารณาว่านิติกรรมชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เว้นแต่มูลเหตุชักจูงใจดังกล่าวจะล่วงรู้ถึงอีกฝ่ายหนึ่งจึงจะถือว่ามูลเหตุชักจูงใจกลายมาเป็นวัตถุประสงค์ของนิติกรรม เช่น ผู้ซื้อซื้อปืนมาก็เพื่อนำไปฆ่าคน หากผู้ขายไม่รู้นิติกรรมครั้งนี้ก็สมบูรณ์ เพราะถือว่าวัตถุประสงค์ของการซื้อในครั้งนี้ก็คือกรรมสิทธิ์ในตัวปืนเท่านั้น แต่หากผู้ขายรู้ว่าผู้ซื้อซื้อปืนไปก็เพื่อนำไปฆ่าคนก็จะทำให้มูลเหตุชักจูงใจของผู้ซื้อ กลายเป็นวัตถุประสงค์ของนิติกรรมอันทำให้นิติกรรมซื้อขายในครั้งนี้ไม่สมบูรณ์ ตกเป็นโมฆะ

1.ที่มาของกฏหมายไทย

ประวัติและความเป็นมาของกฎหมายไทย
ยุคแรกสมัยสุโขทัย
ประเทศไทย ของเราดารงความเป็นเอกราชมาเนิ่นนานมาหลายร้อยปี โดยที่น้อยคนที่จะได้รับรู้ถึงความเป็นมาของประวัติศาสตร์ กฎหมายไทย กฎหมายไทยมีการวิวัฒนาการมานาน เช่นเดียวกันกับกฎหมายของประเทศต่างๆ ก่อนที่ประเทศไทยจะได้ใช้ระบบประมวลกฎหมาย ไทยก็มีระบบกฎหมายใช้เป็นของตนเองเช่นกัน ซึ่งจะอยู่ในรูปของกฎหมายจารีตประเพณี ซึ่งได้ถูกปฏิบัติสืบต่อกันมาจนยอมรับว่าเป็นกฎหมายในที่สุด และก็ได้มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในกาลต่อมา เพื่อให้สมาชิกในชุมชนได้รู้และปฏิบัติตาม รวมถึงมีความสาคัญระหว่างบุคคลกับรัฐ กฎหมายจึงต้องมีเนื้อหาหรือองค์ประกอบสาคัญที่จะทาให้ต่างกับศีลธรรมคือ กฎหมายจะต้องเป็นรัฐาธิปัตย์ ที่มีสภาพบังคับใช้ให้ประชาชนยอมรับและต้องปฏิบัติตาม
นับตั้งแต่ประเทศไทยมีการรวมกันเป็นน้าหนึ่งใจเดียวกันระหว่างเจ้าครองนครในอดีต ๓ พระองค์อันได้แก่ พ่อขุนรามคาแหงมหาราชแห่งอาณาจักรสุโขทัย พ่อขุนงาเมืองแห่งแคว้นพะเยา และพญามังรายแห่งอาณาจักรล้านนา นั้นได้ปรากฏว่า ในยุคที่พญามังรายได้ปกครองบ้านเมืองนั้นพระองค์ได้ทรงกาหนดรูปแบบการปกครองภายใต้กฎหมายที่เรียกกันในชื่อ‚มังรายศาสตร์‛ โดยมีการปกครองแบบพระโอรสและเครือญาติไปปกครองตามหัวเมืองต่าง ๆ และเข้าใจว่าตัวกฎหมายฉบับนี้คงได้รับอิทธิพลมาจาก กฎหมายธรรมศาสตร์ ของมอญเป็นต้น เช่นเดียวกันการปกครองในสมัยพ่อขุนรามคาแห่งซึ่งนับเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงและอาณาจักรสยามได้มีการปกครองแบบพ่อปกครองลูก โดยมี กฎหมายแรกที่ปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ในศิลาจารึกพ่อขุนรามคาแหง ( ปีพ.ศ.๑๘๒๘-๑๘๓๕ ) เรียกกันว่า กฎหมายสี่บท ได้แก่
๑.) บทเรื่องมรดก
๒.)บทเรื่องที่ดิน
๓.)บทวิธีพิจารณาความ
๔.)บทลักษณะฎีกา
และมีการเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะโจรลงไปในครั้งรัชสมัยพญาเลอไทย กษัตริย์สุโขทัยองค์ที่ ๔ ซึ่งมีส่วนของการนากฎหมายพระธรรมศาสตร์มาใช้ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากพราหมณ์ ซึ่งได้มีส่วนขยาย ที่เรียกว่า ‘พระราชศาสตร์’ มาใช้ประกอบด้วย
ยุคกรุงศรีอยุธยา
ครั้นมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่นับว่าเป็นราชธานีแห่งที่สองของไทย ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๓ – ๒๓๑๐ พระมหากษัตริย์ในยุคนั้น ได้สร้าง กฎหมายซึ่งเรียกว่าพระราชศาสตร์ ไว้มากมาย พระราชศาสตร์เหล่านี้ เมื่อเริ่มต้นได้อ้างถึงพระธรรมศาสตร์ฉบับของมนูเป็นแม่บท เรียกกันว่า ‘มนูสาราจารย์’ พระธรรมศาสตร์ฉบับของมนูสาราจารย์นี้ เป็นกฎหมายที่มีต้นกาเนิดในอินเดีย เรียกว่าคาภีร์พระธรรมศาสตร์ ต่อมามอญได้เจริญและปกครอง
ดินแดนแหลมทองมาก่อน ได้แปลต้นฉบับคาภีร์ภาษาสันสกฤตมาเป็นภาษาบาลีเรียกว่า ‘คาภีร์ธรรมสัตถัม’ และได้ดัดแปลงแก้ไขบทบัญญัติบางเรื่องให้มีความเหมาะสมกับชุมชนของตน ต่อจากนั้นนักกฎหมายไทยในสมัยพระนครศรีอยุธยาจึงนาเอาคาภีร์ของมอญของมอญมาเป็นหลักในการบัญญัติกฎหมายของตน ลักษณะกฎหมายในสมัยนั้นจะเป็นกฎหมายอาญาเสียเป็นส่วนใหญ่ ในยุคนั้น การบันทึกกฎหมายลงในกระดาษเริ่มมีขึ้นแล้ว เชื่อกันว่าการออกกฎหมายในสมัยก่อนนั้น จะคงมีอยู่ในราชการเพียงสามฉบับเท่านั้น ได้แก่ ฉบับที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้งาน ฉบับให้ขุนนางข้าราชการทั่วไปได้อ่านกัน หรือคัดลอกนาไปใช้ ฉบับสุดท้ายจะอยู่ที่ผู้พิพากษาเพื่อใช้ในการพิจารณาอรรถคดี
ยุคกรุงธนบุรี
กฎหมายสมัยกรุงธนบุรี เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่ต้องกอบบ้านกู้เมือง หรือก่อบ้านสร้างเมืองประกอบกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้มีพระราชหฤทัยในการคิดป้องกันบ้านเมืองเพื่อมิให้ข้าศึกมารุกรานและเน้นการรวบรวมกลุ่มคนไทยที่ต้องอยู่กับอย่างกระจัดกระจาย ล้มหายตายจากและถูกข้าศึกเทครัวกลับไปยังประเทศพม่า ประกอบกับบ้านเมืองหลังจากเกิดศึกสงคราม ได้รับความบอบช้ามาอย่างหนัก และพระองค์มีจิตคิดฝักใฝ่ในเรื่องธรรมมะในช่วงระยะเวลาสุดท้ายของพระชนม์ชีพ กฎหมายของกรุงธนบุรีจึงอ้างอิงมาจากกรุงศรีอยุธยาเสียเป็นส่วนใหญ่
ยุคกรุงรัตนโกสินทร์
กฎหมายสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่๑ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี เห็นว่ากฎหมายที่ใช้กันแต่ก่อนมานั้นขาดความชัดเจน และไม่ได้รับการจัดเรียงไว้เป็นหมวดหมู่ ที่จะทาให้ง่ายต่อการศึกษาและนามาใช้ จึงโปรดเกล้าให้มีการชาระกฎหมายขึ้นมาใหม่ ในคาภีร์พระธรรมศาสตร์ โดยนามารวบรวมกฎหมายเดิมเข้าเป็นลักษณะหมวด หมู่ที่จะทาให้ง่ายต่อการค้นคว้า สาเร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๘ และได้ทรงนามาประทับตราเป็นตราพระราชสีห์ ซึ่งเป็นตราของกระทรวงมหาดไทย ตราคชสีห์ ของพระทรวงกลาโหม และตราบัวแก้ว ซึ่งเป็นตราของคลังบนหน้าปกของกฎหมายแต่ละเล่ม จาแนกตามลักษณะระเบียบของการปกครองในสมัยนั้น กฎหมายฉบับนั้นเรียกกันว่า ‘กฎหมายตราสามดวง’ กฎหมายตราสามดวงนี้ ถือเป็นประมวลกฎหมายของแผ่นดินที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความรัดกุม ยุติธรรมทั้งทางแพ่งและอาญา นอกจากจะได้บรรจุพระธรรมศาสตร์ตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว ยังคงมีกฎหมายสาคัญๆอีกหลายเรื่อง อาทิ กฎหมายลักษณะพยาน ลักษณะทาส ลักษณะโจร และต่อมาได้มีการตราขึ้นอีกหลายฉบับ ต่อมาประเทศไทยมีการติดต่อสัมพันธ์ไมตรีกับประเทศต่างๆมาก พึงเห็นได้ว่ากฎหมายเดิมนั้นไม่ได้รับการยอมรับจากนานาอารยะประเทศ จนทาให้ไทยต้องเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต นอกจากนั้นยังไม่สามารถนามาใช้บังคับได้ทุกกรณี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงตรากฎหมายขึ้นใหม่ อาทิ พระราชบัญญัติมารดาและสินสมรส
ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงจัดวางระบบศาลขึ้นมาใหม่ และได้ให้ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายทั้งจากอังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม ญี่ปุ่น และลังกามาเป็นที่ปรึกษากฎหมาย และในสมัยนั้นพระราชโอรสของพระองค์ที่ได้ทรงให้ไปศึกษาด้านกฎหมายคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ก็ได้ร่วมกันแก้ไขชาระกฎหมายตราสามดวงเดิมขึ้นใหม่ และจัดพิมพ์ลงในหนังสือเป็นรูปเล่ม ขึ้นในชื่อ
ของ ‘กฎหมายราชบุรี’ ในปีพ.ศ. ๒๔๔๐ และในการนี้เองพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจชาระและร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ ทาการร่างกฎหมายลักษณะอาญา ร่างกฎหมายว่าด้วยการเลิกทาส กฎหมายวิธีสบัญยัติ ร่างประมวลกฎหมายแพ่งและกฎหมายที่สาคัญหลายๆฉบับ จนพระบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์หรือพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ได้รับพระราชทินนามว่าเป็นพระบิดาแห่งกฎหมายไทย และกาหนดให้วันที่ ๗ เดือนสิงหาคมของทุกปีเป็นวันรพี
เนื่องจากสังคมโลก มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นในทุกวินาทีที่โลกหมุนไป ประชาชนในทุกส่วนของโลกมีการติดต่อซึ่งกันและกันมีการพัฒนาการศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงสังคมวัฒนธรรมและมีความรู้สึกนึกคิดที่พัฒนายกระดับสังคมตนเอง ขึ้นตามกระแสโลก จึงมีการเปรียบเทียบระหว่างสังคมของตนเองและสังคมของผู้อื่น ตามวิสัยของปุถุชน และเห็นว่าการปกครองแบบเก่า ๆ คือระบบสมบูรณาญาสิทธิราชมีความเหลื่อมล้ากันทางด้านสังคมมากมาย และการปกครองเมืองต้องขึ้นอยู่กับพระราชอานาจของผู้ปกครองนคร ซึ่งเหมือนกับว่าหากระยะเวลาที่บ้านเมืองมีผู้ปกครองที่มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม มีศีลธรรม และมีความปรีชาสามารถ เห็นแก่บ้านเมืองและประโยชน์สุขของประชาชนก็ถือได้ว่า เป็นโชคอันมหาศาล แต่หากผู้ปกครองบ้านเมืองไม่สนในต่อกิจการบ้านเมือง ก็ถือว่าเป็นคราวโชคร้ายของบ้านเมืองไป
ดังจะกล่าวถึงประเทศฝรั่งเศส ที่มีการเหลื่อมล้าระหว่างชนชาติมาช้านาน มีการแบ่งชนชั้นการปกครองในประเทศเป็น ๓ ชั้น หรือ ๓ วรรณะ คือ
๑.ชนชนของพระสมณะ ซึ่งแบ่งออกเป็นพระสมณะสูง และพระสมณะต่า
๒.ชนชั้นขุนนาง ซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มคือกลุ่มที่สืบเชื้อชาติมาจากบรรพบุรุษ และ
นักปราชญ์หรือปัญญาชน
๓.ชนชั้นสามัญ แบ่งเป็น ๒ กลุ่มเช่นกัน คือกลุ่มพ่อค้า และผู้มีการศึกษา และทาส
ด้วยอิทธิพลของธรรมชาติของปุถุชนนี้เองที่กระตุ้นความต้องการของคน ที่อยากให้มีความทัดเทียมกันเกิดขึ้นในสังคมที่ตนเองได้อาศัยอยู่ จึงเกิดความต้องการอยากที่จะทาลายล้างระบบการปกครองแบบเก่า ๆ เพื่อที่ตนเองจะได้เป็นผู้ที่มีอานาจในการเมืองบ้าง จึงมีการชุมนุมกันเพื่อเรียกร้องหาการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ในที่สุดวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ค.ศ. ๑๗๘๙ ทหารและกลุ่มกาลังของประชาชนก็ได้พร้อมใจกันทาลายล้างอานาจพระมหากษัตริย์ มี นโปเลียน โบนาปาร์ตเป็นผู้นาที่สาคัญนั่นเอง
ประเทศไทย หลังจากที่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๕ ได้ทรงเสด็จประพาสไปยังนานาประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อที่ทรงศึกษาวัฒนธรรมประเพณี และเชื่อมสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ เพื่อที่จะทรงศึกษาและนาอารยะธรรมใหม่ ๆ มาพัฒนาประเทศไทยให้มีความทัดเทียมกับนานา ประเทศ จึงได้โปรดเกล้าส่งพระราชโอรสที่ทรงเล็งเห็นว่ามีพระปรีชาสามารถหรือความถนัดในเรื่องของการศึกษาแขนงใดใด ให้ไปศึกษาต่อยังประเทศที่มีความเจริญในแขนงนั้น เพื่อที่จะนาความรู้มาพัฒนาประเทศต่อไป
จวบจนถึงรัชสมัยพระสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ที่ได้ทรงไปศึกษายังต่างประเทศและมีโอกาสที่ได้เรียนรู้การปกครองรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่าการปกครองแบบประชาธิปไตย ทรงเล็งเห็นว่าในอนาคตข้างหน้าประเทศไทยจักต้องมีความเจริญทัดเทียมนานาอารยะประเทศ จึงทรงทดลองการสร้างเมืองจาลองขึ้นในพระราชวัง มีการปกครองด้วยตนเอง มีการเลือกตั้งในระบบเทศาภิบาล (เทศบาลในปัจจุบัน) ชื่อเมือง ‚ดุสิตธานี‛ เพื่อเป็นเมืองต้นแบบก่อนที่จะทรงมอบอานาจให้กับประชาชนชาวไทย ได้มีการปกครองตนเองก่อน และทรงเห็นว่าประชาชนชาวไทยในขณะนั้นส่วนใหญ่ ยังไม่มีความพร้อมที่จะได้รับอานาจการปกครองดังกล่าว เพราะประชาชนของพระองค์ส่วนใหญ่ ยังมีการศึกษาที่ยังไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐาน แต่ก่อนที่ประชาชาชนชาวไทยจะทันได้ใช้หรือได้เห็นระบบการปกครองนี้ พระองค์ก็ทรงสวรรคตเสียก่อน
ในรัชสมัยต่อมาสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๗ ได้ทรงปกครองบ้านเมือง พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก ต้องเข้ารับการรักษาตัวในสถานที่พยาบาลบ่อย ๆ ทาให้การออกว่าราชการของพระองค์เป็นไปอย่างไม่เต็มที่ และบรรดานักเรียนทุนหลวงที่ทางรัฐบาลไทยได้ส่งไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะกลับมารับราชการสนองพระเดชพระคุณ ได้เรียนวิชาต่าง ๆ รวมถึงวิชากฎหมาย และเห็นว่าประเทศไทยยังมีความล้าหลังในการปกครองประเทศกว่านานา ประเทศตะวันตกอยู่มาก ด้วยความเป็นนักเรียนหนุ่มอายุน้อย และอยากเห็นการพัฒนาประเทศเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็วที่สุดจึงได้มีการติดต่อประสานงานจัดตั้งคณะราษฎร์ขึ้นเพื่อที่จะปฏิวัติการปกครองประเทศขึ้นมาใหม่ โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ตามแบบนานา อารยะประเทศที่ตนได้ไปศึกษาและเรียนรู้มามีการแบ่งสายการทางานเป็น ๒ สาย คือสายราษฎรและสายทหาร โดยมีผู้นาที่สาคัญดังนี้
๑.สายของพลเรือนนาโดยหลวงประดิษฐ์มนูธรรม หรือนายปรีดี พนมยงค์ และพรรคพวก
๒. สายทหาร นาโดย นายทหารชั้นสูงระดับผู้บังคับการ จานวน ๓ ท่านคือ พระยาทรงสุเดช พระยาพหลพลพยุหเสนา และพระประศาสตร์พิทยายุทธ์ได้การกระทาการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย จากระบบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบบประชาธิปไตย ในวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ ใช้เวลาร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพียง ๒ วัน ก็แล้วเสร็จในวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๕ ให้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงลงพระปรมาภิไธย ก่อนมีการแก้ไขเพิ่มแล้ว ประกาศใช้ในวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ โดยมี พระยามโนปกรณ์ นิติธาดา เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย
นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากปี พ.ศ. ๒๔๗๕ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา ๗๕ ปีแล้ว ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญทั้งถาวรและชั่วคราวรวมกัน ๑๗ ฉบับ เฉลี่ยแล้ว รัฐธรรมนูญฉบับหนึ่งใช้ได้เพียง ๔ ปี ๓ เดือนเท่านั้น

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

งานสอบแก้

ประวัติและที่มาของ iOS

 iOS
        (ก่อนหน้าiPhone OS ) เป็นระบบปฏิบัติการมือถือที่พัฒนาและจัดจำหน่ายโดยบริษัท Apple Incออกจำหน่ายในปี 2007 สำหรับiPhoneและiPod Touch ของมันได้รับการขยายเพื่อรองรับอุปกรณ์ที่แอปเปิ้ลอื่น ๆ เช่นiPadและโทรทัศน์แอปเปิ้ล
       ซึ่งแตกต่างจากไมโครซอฟท์ ’s Windows CE (Windows โทรศัพท์ ) และGoogle ’s Android , แอปเปิ้ลไม่ได้ใบอนุญาตสำหรับการติดตั้ง iOS บนฮาร์ดแวร์ที่ไม่ใช่แอปเปิ้ล ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2012 , แอปเปิ้ลที่ App Storeมีมากกว่า 650,000 โปรแกรม iOS ซึ่งได้รับการเรียกรวมดาวน์โหลดมากกว่า 30 ล้านครั้ง มันมีส่วนแบ่ง 16% จากมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการหน่วยที่ขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2010 หลังทั้งสองของ Google ’s AndroidและNokia ’s Symbian ในเดือนพฤษภาคม 2010 ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็คิดเป็น 59% ของการใช้โทรศัพท์มือถือบนเว็บของข้อมูล(รวมถึงการใช้ทั้งบนไอพอดทัชและไอแพด )
         ส่วนติดต่อผู้ใช้ของ iOS ขึ้นอยู่กับแนวคิดของการจัดการตรงโดยใช้ท่าทางสัมผัสหลาย . องค์ประกอบการควบคุมการเชื่อมต่อประกอบด้วยเลื่อนสวิตช์และปุ่ม เพื่อตอบสนองผู้ใช้ป้อนเป็นได้ทันทีและให้อินเตอร์เฟซของเหลว ปฏิสัมพันธ์กับระบบปฏิบัติการรวมถึงท่าทางเช่นรูด , แตะ , หยิกและหยิกย้อนกลับซึ่งทั้งหมดนี้มีความหมายเฉพาะในบริบทของระบบปฏิบัติการ iOS และอินเตอร์เฟซแบบมัลติทัชของมัน ภายในaccelerometersถูกนำมาใช้โดยการใช้งานบางอย่างเพื่อตอบสนองต่อการสั่นของอุปกรณ์ (หนึ่งผลเหมือนกันคือคำสั่ง undo) หรือหมุนมันในสามมิติ (หนึ่งผลร่วมกันคือการเปลี่ยนจากแนวตั้งเป็นโหมดแนวนอน)
iOS มาจากOS Xกับที่มันหุ้นดาร์วินรากฐานและดังนั้นจึงเป็นUnixระบบปฏิบัติการ
ใน Ios, มีสี่เป็นชั้น abstractionหลักของระบบปฏิบัติการชั้น: Core Servicesชั้นชั้น Media, และโกโก้ Touchชั้น รุ่นปัจจุบันของระบบปฏิบัติการ (IOS 5.1.1) อุทิศ 1-1.5 GB ของหน่วยความจำแฟลชของอุปกรณ์สำหรับพาร์ติชันระบบที่ใช้ประมาณ 800 MB ของพาร์ติชันที่ (ที่แตกต่างกันไปตามรุ่น) สำหรับ iOS ตัวเอง
 ระบบปฏิบัติการได้เปิดตัวกับiPhoneที่Macworld Conference & Expo , 9 มกราคม 2007 และเปิดตัวในเดือนมิถุนายนของปีที่ในตอนแรกแอปเปิ้ลวรรณกรรมการตลาดไม่ได้ระบุชื่อแยกต่างหากสำหรับระบบปฏิบัติการที่ระบุเพียง ที่ “iPhone รัน OS X” ในขั้นต้นการใช้งานของบุคคลที่สามไม่ได้รับการสนับสนุน สตีฟจ็อบส์เป็นที่ถกเถียงกันว่านักพัฒนาสามารถสร้างโปรแกรมประยุกต์บนเว็บว่า “จะทำตัวเหมือนปพลิเคชันบน iPhone พื้นเมือง” ที่ 17 ตุลาคม 2007, แอปเปิ้ลประกาศว่าซอฟท์แว Kit พื้นเมืองพัฒนา (SDK) อยู่ภายใต้การพัฒนาและการที่พวกเขา วางแผนที่จะนำมัน “อยู่ในมือนักพัฒนา ‘ในเดือนกุมภาพันธ์” ที่ 6 มีนาคม 2008, แอปเปิ้ลปล่อยออกมาก่อนเบต้าพร้อมกับชื่อใหม่สำหรับระบบปฏิบัติการ: “iPhone OS”
      แอปเปิ้ลได้เปิดตัว iPod touch, ซึ่งมีมากที่สุดของความสามารถที่ไม่ใช่โทรศัพท์ของ iPhone แอปเปิ้ลยังขายได้มากกว่าหนึ่งล้าน iPhones ในช่วงเทศกาลวันหยุด 2007 ที่ 27 มกราคม 2010, แอปเปิ้ลประกาศ iPad, featuring หน้าจอขนาดใหญ่กว่า iPhone และ iPod touch และได้รับการออกแบบสำหรับการท่องเว็บการบริโภคสื่อและการอ่านiBooks .
     ในเดือนมิถุนายน 2010, OS iPhone ของ Apple แบรนเป็น “iOS” เครื่องหมายการค้า “IOS” ได้ถูกใช้โดยซิสโก้มานานกว่าทศวรรษสำหรับระบบปฏิบัติการของIOSที่ใช้ในเราเตอร์ของมัน เพื่อหลีกเลี่ยงการใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นคดี, แอปเปิ้ลได้รับใบอนุญาต “IOS” เครื่องหมายการค้าจากซิสโก้

ประวัติรุ่น
  แอปเปิ้ลได้รับใบอนุญาตเครื่องหมายการค้าสำหรับ “iOS” จากซิสโก้ซิสเต็มส์ (ซึ่งเป็นเจ้าของIOS ), บริษัท เดียวกันกับที่แอปเปิ้ลได้ตัดสินข้อพิพาทก่อนหน้านี้มากกว่า “iPhone” เครื่องหมายการค้า
      Apple เปิดตัว iOS 4 เมื่อ June 21, 2010, สามวันก่อนiPhone 4 , ในความพยายามที่จะลดความเครียดในเซิร์ฟเวอร์ของ Apple
     iOS 4 คือรุ่นแรกของ OS ที่จะอัพเกรดฟรีใน iPod touch; แอปเปิ้ลได้ค่าบริการ 4.99 $ สำหรับการอัพเกรดก่อนหน้านี้ แอปเปิ้ลก่อนหน้านี้ประกาศว่าผู้ใช้ iPad กับซอฟต์แวร์ 3.x จะได้รับการอัพเกรดฟรีเพื่อไปปล่อย (4.x) ที่สำคัญ
    iOS 4.0.1 รวมการแก้ไขเพื่อให้การรับสัญญาณบ่งชี้ที่มีความแข็งแรง (s) มันถูกปล่อยออกที่กรกฎาคม 15, 2010, แอปเปิ้ลวันก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานแถลงข่าวเพื่อหารือเกี่ยวกับการตอบสนองในการเผยแพร่อย่างกว้างขวางปัญหาเสาอากาศ iPhone แอปเปิ้ลยังปล่อย iOS 3.2.1 สำหรับiPadซึ่งเอ็นดูแท็บเล็ตของ Wi-Fi เชื่อมต่อการเล่นวิดีโอและสำเนาและวางสำหรับสิ่งที่แนบไฟล์ PDF ท่ามกลางการปรับปรุงอื่น ๆ
     iOS 4.1 สำหรับiPhoneและ iPod touch ได้รับการปล่อยตัวเมื่อ 8 กันยายน 2010; การปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างที่รายงานโดยผู้ใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นและเพิ่มคุณสมบัติใหม่หลายประการ:
ศูนย์เกมซึ่งช่วยให้นักเล่นเกมที่จะเล่นหลายเกมออนไลน์, อัปโหลดคะแนนสูงและความสำเร็จปลดล็อค (แต่แอปเปิ้ลออกมาจากศูนย์เกม3G iPhoneเพราะจากรายงานผลการดำเนินงานช้า)
ความสามารถในการสลับการตรวจการสะกดและปิด
การถ่ายภาพ HDR (4 iPhone และ 4S เท่านั้น)
ปิงซึ่งเป็นเครือข่ายทางสังคมดนตรีและการค้นพบเครื่องมือ
      iOS 4.1 การอัปเดตการตั้งค่าของผู้ให้บริการซึ่ง (ในเวลาในประเทศสหรัฐอเมริกาว่าAT & T 8.0 เท่านั้น) ในเวลาเดียวกัน, ทีวีเช่ากลายเป็นโชว์ที่มีอยู่บนiTunes Store สหรัฐ .
      iOS 4.2 ก็ไม่เคยปล่อยออกมา แต่แทนที่จะ iOS 4.2.1 ได้รับการปล่อยตัวเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2010 มันเข้ากันได้เพิ่ม iPad นอกจากนี้บน iOS 4.2.5 ได้เปิดตัวเป็นรุ่นสาธิตสำหรับCDMAรุ่นของiPhone 4 . นี้ iPhone 4 ตัวแปรได้รับการปล่อยตัวสำหรับVerizon Wirelessลูกค้าในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2011 แต่ก่อนการสั่งซื้อพร้อมใช้งานสำหรับลูกค้าที่มีคุณภาพ Verizon Wireless 3 กุมภาพันธ์ รุ่นออกมาพร้อมกับโทรศัพท์, 4.2.6, มีการเปลี่ยนแปลง UI บางเล็กน้อยเฉพาะสำหรับรุ่นของโทรศัพท์ CDMA ได้แก่ “จุดที่มีสัญญาณส่วนบุคคล” สวิทช์ในการตั้งค่า app บริการซึ่งจะต้องมีการเปิดใช้งานโดยผู้ให้บริการเพื่อให้ คุณลักษณะที่จะใช้งาน นี้กลายเป็นที่ใช้ได้สำหรับการซื้อจาก Verizon เป็นแผนแยกกันตามที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นไปได้ในมาร์ทโฟนอื่น ๆ
      iOS 4.3 ถูกปล่อยออกมาให้ประชาชนวันที่ 9 มีนาคม, 2011, สองวันก่อน2 iPadที่มีอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากคุณสมบัติก่อนหน้านี้ปล่อยสาธารณะของ iOS 4.3 รวมคุณสมบัติใหม่ ๆ เช่น Nitro JavaScript เครื่องยนต์ในSafariทำให้ Safari ทำงานได้ถึงสองครั้งที่รวดเร็วเป็นไปตามแอปเปิ้ล Sharing แรก iTunes ยังได้รับการแก้ไขที่สำคัญใน iOS 4.3; มันช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อไปยังบ้านของพวกเขาWi-Fiเครือข่ายและสตรีมเนื้อหาจากอุปกรณ์ iOS กับลำโพงทีวีและอุปกรณ์อื่น ๆ หรือในทางกลับกันจุดที่มีสัญญาณส่วนบุคคลสำหรับ iPhone 4 มีคุณลักษณะใหม่ที่เป็น iPhone GSM (ออกก่อนหน้านี้ กับ iPhone Verizon CDMA) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างบริการ Wi-Fiเครือข่ายกับ iPhone 4 และจัดให้มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ถึงห้าอุปกรณ์อื่น ๆ ในVerizon Wireless , สามเมื่อAT & T นอกจากนี้ด้านข้าง ปุ่มบน iPad ขณะนี้ปรับแต่งได้ที่มีผู้ใช้สามารถที่จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเสียงระบบปิดหรือเป็นล็อคการหมุนหน้าจอ iOS 4.3 ไม่ได้ถูกปล่อยออกมาสำหรับ iPhones CDMA ซึ่งอยู่บน 4.2.x รุ่นจนกว่าพวกเขาจะได้ปรับปรุง เพื่อ iOS 5 กับส่วนที่เหลือของสาย iOS เมื่อ 12 ตุลาคม 2011
     iOS 5.0 และคุณลักษณะของมันถูกประกาศเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่อยู่ WWDC ปราศรัย 2011 การปรับปรุงที่ได้รับการปล่อยตัว 18:00 GMTเมื่อ 12 ตุลาคม 2011 iOS 5 นำiCloudบริการและศูนย์การแจ้งเตือนเช่นเดียวกับการปรับปรุงการปพลิเคชันพื้นเมืองเช่นกล้อง ระบบปฏิบัติการยังมีการใช้งานใหม่เช่น “เตือน” app และ “ที่แผงหนังสือ” บ้านโฟลเดอร์พิเศษของหน้าจอและหมวดหมู่ที่ App Store ที่มีปพลิเคชันหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ” iMessage”เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้ iPod touch, iPhone และ iPad ในการสื่อสารมากเช่นบริการแชทที่ใช้เฉพาะระหว่างอุปกรณ์เหล่านี้ คุณลักษณะ iMessage ได้รับการผนวกเข้ากับ “ข้อความ” แอพลิเคชันบน iPhone การประยุกต์ใช้ iPod บน iPhone และ iPad ได้รับตอนนี้แยกออกเป็นดนตรีและการประยุกต์ใช้วิดีโอเช่นเดียวกับที่มันได้เคยใน iPod touch เกี่ยวกับiPhone 4Sเสมือนผู้ช่วยที่ชื่อสิริถูกบันทึก สิริช่วยให้ผู้ใช้เพื่อพูดคุยกับ iPhone ของพวกเขา 4S และดำเนินการต่างๆให้ส่งข้อความให้สร้างการแจ้งเตือนและทำการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต ระบบปฏิบัติการใหม่นี้ยังมีการรวม Twitter อุปกรณ์ทั้งหมดในขณะนี้สามารถติดตั้งโดยไม่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ เกือบทุกระบบปพลิเคชันที่ถูกปรับปรุงด้วยคุณสมบัติใหม่หรืออินเตอร์เฟซที่ออกแบบใหม่ นอกจากนี้ยังเพิ่มการรักษาความปลอดภัยที่ปรับปรุงและแก้ไขข้อผิดพลาด ตามที่แอปเปิ้ล, OS ใหม่มีมากกว่า 200 คุณสมบัติใหม่
     iOS 5.0.1 ได้รับการปล่อยตัวในพฤศจิกายน 2011 การปรับปรุงนี้รวมแล้วจำนวนของการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆและปรับปรุงความปลอดภัยการปรับปรุงยังแก้ปัญหาแบตเตอรี่กับอุปกรณ์ใหม่และข้อผิดพลาดกับiCloudบริการและ รวมมีการแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ อื่น ๆ และบางวิธีการใหม่สำหรับนักพัฒนา
     iOS 5.1 มีการประกาศไปพร้อมกับiPadและApple TV (รุ่น 3) ในช่วงเหตุการณ์กดพิเศษที่ Yerba Buena ศูนย์ศิลปะในซานฟรานซิสโกเมื่อ 7 มีนาคม 2012 ไม่มากจากเหตุการณ์ที่ได้ทุ่มเทเพื่อซอฟแวร์ใหม่ ปล่อยและจะถูกมองโดยทั่วไปเป็นรุ่นที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดต่อมาในวันนั้นผู้ใช้ iOS อุปกรณ์ก็สามารถที่จะอัพเกรดระบบปฏิบัติการใหม่คุณสมบัติใหม่รวมถึงการสนับสนุนสิริในภาษาญี่ปุ่นเช่นเดียวกับ ความสามารถในการลบภาพถ่ายจากภาพ Streamเมื่ออุปกรณ์ iOS  iPad ยังได้รับแอพพลิเคกล้องที่ออกแบบใหม่แบบ over-the-air จำกัด การดาวน์โหลด 3G จาก App Store เพิ่มขึ้นจาก 20 MB ถึง 50 MB
     iOS 5.1.1 ได้เปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิของ 2012การปรับปรุงนี้รวมจำนวนของการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆและปรับปรุงความปลอดภัยมันเป็นรุ่นสุดท้ายที่จะสนับสนุนการเดิมiPadและรุ่นที่ 3 iPod Touch ของ .
     iOS 6 ได้ประกาศเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 ณ ของ Apple WWDC เหตุการณ์ปราศรัย 2012 มีอยู่มากกว่า 200 คุณสมบัติใหม่ใน iOS 6 ได้แก่ :
  • หน้าซอฟท์แวทำแผนที่แอปเปิ้ลใหม่ ( TomTomมากกว่าGoogle Maps ) เปิดโดยเปิดนำร่องการจราจรและสะพานลอย
  • สิริสนับสนุนiPad Generation, 3 กีฬาภาพยนตร์และร้านอาหาร
  • ของ Facebookบูรณาการ (คล้ายกับTwitterบูรณาการใน iOS 5) โพสต์โดยตรงไปยังFacebook , รายชื่อ, ปฏิทิน Apps และชอบและเพลง
  • ที่ใช้ร่วมกันภาพ Stream
  • สมุดบัญชีเงินฝาก
  • FaceTimeมากกว่าโทรศัพท์มือถือ
  • สิ่งอำนวยความสะดวก App โทรศัพท์ใหม่
  • การเปลี่ยนแปลงใน App จดหมาย
  • iCloud แท็บใน Safari
  • สิ่งอำนวยความสะดวก Accessablity ใหม่
  • ร้านค้า Remodeled (iTunes, App Store และ iBooks)
  • คุณลักษณะใหม่สำหรับประเทศจีน
  • อินเตอร์เฟซใหม่นี้เป็นเพราะจะเปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงของ 2012
คุณสมบัติ
  หน้าจอหลัก

(แสดงโดยและรู้จักกันว่า “ สปริง ”) จะแสดงการประยุกต์ใช้ไอคอนและท่าเรือที่ด้านล่างของหน้าจอที่ผู้ใช้สามารถ pin ปพลิเคชันที่ใช้บ่อยที่สุดของพวกเขา หน้าจอหลักจะปรากฏเมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้สวิทช์บนอุปกรณ์หรือกดปุ่ม “Home” (ปุ่มที่มีอยู่จริงบนอุปกรณ์) หน้าจอมีแถบสถานะด้านบนเพื่อแสดงข้อมูลเช่นเวลา, ระดับแบตเตอรี่และความแรงของสัญญาณ ส่วนที่เหลือของหน้าจอเพื่อรองรับการประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน เมื่อรหัสผ่านที่ถูกกำหนดและผู้ใช้ในอุปกรณ์สวิทช์, ล็อคหน้าจอจะปรากฏขึ้น

      แถบสถานะ iPhone 4S แสดงไอคอนของมัน จากซ้ายไปขวา: ความแรงของสัญญาณ , ผู้ให้บริการไร้สายชื่อ, Wi-FiความแรงของสัญญาณVPNการเชื่อมต่อที่เวลาล็อคปฐมนิเทศบริการสถานที่, นาฬิกาปลุก,
TTYสถานะสะท้อน AirPlay และแบตเตอรี่ (ยังไม่ภาพ: โหมดเครื่องบิน , โอนสาย , ล็อคอุปกรณ์ฮอตสปอตส่วนบุคคล , เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่โหมดเสียงพื้นหลัง, บลูทูธ , WiFi ซิงค์ตัวบ่งชี้กิจกรรมของเครือข่ายและร้อยละแบตเตอรี่)
ตั้งแต่ iOS เวอร์ชัน 3.0, ฟังก์ชั่นการค้นหา Spotlight ได้รับการให้บริการบนหน้าซ้ายสุดของหน้าจอหลักที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาผ่านสื่อการประยุกต์ใช้อีเมลติดต่อและไฟล์ที่คล้ายกัน
  โฟลเดอร์

    ด้วย iOS 4 การแนะนำของระบบโฟลเดอร์ที่เรียบง่ายมา เมื่อใช้งานอยู่ในโหมด “กระตุก” ใด ๆ สองสามารถลากด้านบนของแต่ละอื่น ๆ เพื่อสร้างโฟลเดอร์และจากนั้นมาปพลิเคชันเพิ่มเติมสามารถเพิ่มลงในโฟลเดอร์โดยใช้ขั้นตอนเดียวกันได้ถึง 12 บน iPhone และ iPod touch และ 20 ใน iPad ชื่อสำหรับโฟลเดอร์ที่ถูกเลือกโดยอัตโนมัติตามประเภทของการใช้งานภายใน แต่ชื่อยังสามารถแก้ไขได้โดยผู้ใช้
  การแจ้งเตือน

  ใน iOS 5 ปรับปรุงคุณลักษณะการแจ้งเตือนที่ถูกออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ การแจ้งเตือนในขณะนี้ตรวจทานในหน้าต่างซึ่งสามารถลากลงมาจากด้านบนของหน้าจอหากผู้ใช้สัมผัสที่ได้รับการแจ้งเตือนเขา / เธอจะไปที่โปรแกรมประยุกต์ที่ส่งการแจ้งเตือน
  การใช้งานรวมแล้ว

   หน้าจอหลักที่มี iOS เหล่านี้ “ปพลิเคชัน” เริ่มต้น บางส่วนของโปรแกรมเหล่านี้จะถูกซ่อนไว้ตามค่าเริ่มต้นและเข้าถึงได้โดยผู้ใช้ผ่านการตั้งค่า app หรือวิธีอื่นสำหรับอินสแตนซ์, Nike + iPodสามารถใช้งานได้ผ่านการตั้งค่า app
สัมผัส iPod ยังคงมีการใช้งานเดียวกันที่มีอยู่ตามค่าเริ่มต้นบน iPhone ด้วยข้อยกเว้นของปพลิเคชันโทรศัพท์, ข้อความเข็มทิศและกล้องถ่ายรูป (ก่อนรุ่นที่ 4) ”iPod” App ก่อนหน้านี้มีอยู่บน iPhone ได้แยกออกเป็นสองปพลิเคชันที่มี iOS 5, ฟังเพลงและถ่ายเป็นมันมักจะได้รับใน iPod touch แถวล่างของโปรแกรมจะใช้ในการวาดภาพวัตถุประสงค์หลักใน iPod touch ของ: เพลง, วิดีโอ, Safari และ App Store (เค้าโครง Dock ถูกเปลี่ยนแปลงในการปรับปรุง 3.1) สำหรับการสร้าง iPod Touch 4 จะมี FaceTime และกล้องและเค้าโครงท่าเรือได้เปลี่ยนไปฟังเพลง, Mail, Safari วิดีโอ, ในฐานะของ iOS 5.0 “iMessage” จะใช้ได้บนทุกอุปกรณ์ iOS ทำงาน iOS 5 iMessage เป็นอย่างมีประสิทธิภาพรุ่นของ app ข้อความ iPhone ที่จะส่งข้อความฟรีหรือข้อความมัลติมีเดียไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ iOS (คล้ายกับBlackBerry Messenger )
iPad มาพร้อมกับการใช้งานเช่นเดียวกับไอพอดทัชไม่รวมหุ้น, อากาศ, นาฬิกาเครื่องคิดเลข, และ Nike + iPod app ปพลิเคชันเพลงและวิดีโอมีให้แยกเป็นใน iPod touch แม้จะ (เช่นบน iPhone) app เพลงที่ชื่อ “iPod” ถึงแม้ว่าที่ถูกเปลี่ยนแปลงใน iOS 5 ถึง “เพลง”, เพื่อให้ตรงกับอุปกรณ์อื่น ๆ ในครอบครัว มากที่สุดของการใช้งานเริ่มต้นจะถูกเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อใช้ประโยชน์จากจอแสดงผลขนาดใหญ่ของ iPad เค้าโครงเริ่มต้นที่ท่าเรือรวมถึง Safari, Mail ภาพถ่ายและเพลง
    พร้อมการใช้งาน

     ก่อนที่ iOS 4, มัลติทาสกิ้งถูก จำกัด ให้เลือกการใช้งานแอปเปิ้ลรวมอยู่ในอุปกรณ์และอาเรย์ของการปรับเปลี่ยน jailbroken เริ่มต้นด้วย iOS 4 บน 3 รุ่นที่ใหม่กว่าและอุปกรณ์ iOS, มัลติทาสกิ้งได้รับการสนับสนุนผ่านพื้นหลังเจ็ดAPIs :
  1. เสียงพื้นหลัง – แอพลิเคชันยังคงทำงานในพื้นหลังตราบเท่าที่มันจะเล่นเสียงหรือเนื้อหาวิดีโอ
  2. Voice over IP – แอพลิเคชันจะถูกระงับเมื่อมีสายโทรศัพท์ไม่ได้อยู่ในความคืบหน้า
  3. สถานที่ตั้งของพื้นหลัง – แอพลิเคชันจะได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลงสถานที่
  4. กดแจ้งที่
  5. การแจ้งท้องถิ่น – ตารางเวลาการประยุกต์ใช้การแจ้งเตือนในพื้นที่ที่จะส่งมอบในเวลาที่กำหนดไว้
  6. เสร็จงาน – โปรแกรมจะถามระบบสำหรับเวลาพิเศษเพื่อให้เป็นงานที่ได้รับ
  7. สลับ app รวดเร็ว – โปรแกรมไม่รันโค้ดใด ๆ และอาจถูกลบออกจากหน่วยความจำในเวลาใด ๆ 
    การใช้งานที่สวิตชิ่ง

      ดับเบิลคลิกที่ปุ่มที่บ้านเปิดใช้งานแอพลิเคชันสลับ อินเตอร์เฟซที่ท่าเรือเหมือนเลื่อนจะปรากฏขึ้นจากด้านล่างย้ายเนื้อหาของหน้าจอขึ้น เลือกไอคอนสวิทช์ไปยังโปรแกรมประยุกต์ ไปทางซ้ายจะเป็นไอคอนที่ทำงานเป็นตัวควบคุมเพลง, ล็อคการหมุนและบน iOS 4.2 ขึ้นไปควบคุมปริมาณ โฮลดิ้งไอคอนสั้น ๆ ที่ทำให้พวกเขา “กระตุก” (คล้ายกับหน้าจอ) และช่วยให้ผู้ใช้สามารถบังคับให้ออกจากโปรแกรมประยุกต์โดยใช้เพียงแตะที่วงกลมสีแดงลบที่ปรากฏอยู่ที่มุมของ icon app ของ
การใช้งานที่สวิตชิ่ง


      เกมCenter
    
      เกมศูนย์เป็นออนไลน์ หลาย ”เครือข่ายการเล่นเกมทางสังคม” ที่ออกโดยแอปเปิ้ลจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถ “เชิญเพื่อนที่จะเล่นเกมเริ่มเกมหลายคู่ที่ผ่านการติดตามความสำเร็จของพวกเขาและเปรียบเทียบคะแนนสูงของพวกเขาเกี่ยวกับ คณะผู้นำ. “ iOS 5 และเหนือเพิ่มการสนับสนุนสำหรับรายละเอียดภาพถ่ายศูนย์เกมได้มีการประกาศในช่วงเหตุการณ์ iOS ตัวอย่างที่ 4 จัดโดยแอปเปิ้ลเมื่อ 8 เมษายน 2010 ตัวอย่างที่ถูกปล่อยออกไปให้นักพัฒนาแอปเปิ้ลที่ลงทะเบียนในเดือนสิงหาคมมันถูกปล่อยออกเมื่อ 8 กันยายน 2010 ด้วย iOS 4.1 บน iPhone 4, 3GS iPhone และ iPod touch รุ่นที่ 2 รุ่นที่ผ่าน 4ศูนย์เกมที่ทำต่อสาธารณชนครั้งแรกใน iPad กับ iOS 4.2.1 มีการสนับสนุนสำหรับการไม่มี3G iPhoneและiPhone เดิม . อย่างไรก็ตามศูนย์เกมเป็นทางการที่มีอยู่ใน iPhone 3G ผ่านสับ


      การพัฒนา

      SDKการใช้งานจะต้องเขียนและเรียบเรียงโดยเฉพาะสำหรับ iOS และสถาปัตยกรรม ARM ซาฟารี เว็บเบราเซอร์ที่สนับสนุนโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์เช่นเดียวกับเว็บอื่น ๆ ผู้มีอำนาจของบุคคลที่สามแอพพลิเคชันที่ใช้ได้สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 2.0 และภายหลังผ่านแอปเปิ้ลที่ App Store .
iOS SDK
                                          iOS SDK รวมอยู่ใน Xcode 3.1

        ที่ 17 ตุลาคม 2007 ในจดหมายเปิดผนึกที่โพสต์ไปยังแอปเปิ้ล “ข่าวร้อน” เว็บล็อก, สตีฟงานประกาศว่าชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) จะให้บริการแก่บุคคลที่สามพัฒนาในเดือนกุมภาพันธ์ 2008  SDK ได้รับการปล่อยตัว วันที่ 6 มีนาคม, 2008, และช่วยให้นักพัฒนาที่จะทำให้โปรแกรมสำหรับ iPhone และ iPod touch รวมทั้งทดสอบพวกเขาใน “จำลอง iPhone” อย่างไรก็ตามการโหลดแอพลิเคชันบนอุปกรณ์เป็นไปได้เฉพาะหลังจากจ่ายค่าสำหรับนักพัฒนาโปรแกรม iPhone
      ค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วมโปรแกรมตามลำดับสำหรับ iOS และ OS X ถูกระบุไว้ที่ $ 99.00 ต่อใบอนุญาตให้นักพัฒนา นี้ค่าธรรมเนียม $ 99.00 จะต้องชำระเป็นประจำทุกปีเพื่อให้นักพัฒนาที่จะรักษาสิทธิ์ของพวกเขา ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2010, แอปเปิ้ลเปิดตัว Xcode บน Mac ร้านค้าของ App ฟรีดาวน์โหลดสำหรับทุก OS X Lion ผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถสร้างและพัฒนาแอพพลิเค iOS ใช้สำเนาฟรี Xcode แต่พวกเขาไม่สามารถโพสต์ให้ร้าน App หรือทำกำไรจากการใช้งานได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินก่อนสำหรับนักพัฒนา iPhone $ 99.00 หรือ Mac ค่าธรรมเนียมหลักสูตรนักพัฒนา
ตั้งแต่การเปิดตัวของXcode 3.1 , Xcode เป็นสภาพแวดล้อมการพัฒนาสำหรับ iOS SDK การใช้งาน iPhone เช่น iOS และ OS X, เขียนในวัตถุประสงค์-C .
นักพัฒนาสามารถที่จะกำหนดราคาใด ๆ ข้างต้นขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับการใช้งานของพวกเขาที่จะกระจายผ่านทางApp Store ที่ซึ่งแอปเปิ้ลจะใช้เวลา 30% ของรายได้ (อื่น ๆ 70% ไปที่นักพัฒนา) อีกวิธีหนึ่งที่พวกเขาอาจเลือกที่จะปล่อยโปรแกรมฟรีและไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่จะปล่อยหรือแจกจ่ายใบสมัครยกเว้นค่าสมาชิก

   Jailbreaking

        นับตั้งแต่รุ่นแรกของ iOS ได้รับภายใต้ความหลากหลายของ hacks ที่แตกต่างกันศูนย์กลางรอบเพิ่มฟังก์ชันการทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตแอปเปิ้ลก่อนที่จะเปิดตัวครั้งแรกของ 2008 พื้นเมืองiOS App Store , แรงจูงใจหลักสำหรับ jailbreaking คือการติดตั้งแอพพลิเคชันของบุคคลที่สามซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากแอปเปิ้ลในเวลาแอปเปิ้ลอ้างว่ามันจะไม่ปล่อยอัพเดตซอฟแวร์ iOS ที่ออกแบบมา โดยเฉพาะที่จะทำลายเครื่องมือเหล่านี้ (ที่นอกเหนือจากการใช้งานที่ดำเนินการปลดล็อคซิม ) แต่กับแต่ละที่ตามมา iOS ปรับปรุงก่อนหน้านี้ un-patched หาประโยชน์ jailbreak มี patched ปกติ
นับตั้งแต่การมาถึงของแอปเปิ้ลของพื้นเมืองที่เก็บ iOS App และพร้อมกับการประยุกต์ใช้ IT-บุคคลที่สามแรงจูงใจทั่วไปของ jailbreaking มีการเปลี่ยนแปลงคนแหกคุกด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันจำนวนมากรวมทั้งแอพพลิเคละเมิดลิขสิทธิ์ App Store, เข้าถึงระบบแฟ้ม, การติดตั้งธีมอุปกรณ์ที่กำหนดเองและปรับเปลี่ยนอุปกรณ์สปริง .ในอุปกรณ์บาง jailbreaking ยังทำให้มันเป็นไปได้ที่จะติดตั้งระบบปฏิบัติการทางเลือกเช่น Android และเคอร์เนล
ในปี 2010 มูลนิธิพรมแดนอิเล็กทรอนิกส์ (EFF) ประสบความสำเร็จเชื่อว่าสำนักงานลิขสิทธิ์ของสหรัฐที่จะปฏิเสธข้อเรียกร้องของ Apple ว่า jailbreaking มีการละเมิดDigital Millennium Copyright Act (DMCA) และประกาศว่า jailbreaking iOS เป็นกฎหมายในสหรัฐอเมริกา

    การจัดการสิทธิแบบดิจิตอล

           ลักษณะปิดและกรรมสิทธิ์ของ IOS ได้รวบรวมการวิจารณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิดิจิตอลสนับสนุนเช่นมูลนิธิพรมแดนอิเล็กทรอนิวิศวกรคอมพิวเตอร์และกิจกรรมBrewster Kahle , Internet กฎหมายผู้เชี่ยวชาญโจนาธาน Zittrainและมูลนิธิซอฟต์แวร์ฟรีที่ประท้วงเหตุการณ์เบื้องต้นของ iPad และมี ที่กำหนดเป้าหมาย iPad ด้วย “ความบกพร่องจากการผลิตโดยได้รับการออกแบบแคมเปญ “ คู่แข่งไมโครซอฟท์ผ่านทางโฆษกของ PR, การวิพากษ์วิจารณ์การควบคุมของ Apple มากกว่าแพลตฟอร์มของ
ที่ปัญหาข้อ จำกัด ที่กำหนดโดยการออกแบบของ iOS มีคือDigital Rights Management (DRM) วัตถุประสงค์เพื่อล็อคสื่อที่ซื้อไปยังแพลตฟอร์มแอปเปิ้ล, รูปแบบการพัฒนา (ต้องสมัครสมาชิกรายปีที่จะแจกจ่ายปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นสำหรับ iOS), ขั้นตอนการอนุมัติจากส่วนกลางสำหรับแอพพลิเค เช่นเดียวกับแอปเปิ้ลการควบคุมทั่วไปและ จำกัด ขอบเขตของแพลตฟอร์มตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปัญหาความสามารถในการแอปเปิ้ลจากระยะไกลปิดหรือลบปพลิเคชันที่จะเป็น
บางคนในชุมชนมีเทคโนโลยีได้แสดงความกังวลว่าล็อคลง iOS แสดงถึงแนวโน้มการเติบโตในแนวทางของ Apple กับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแอปเปิ้ลออกไปจากเครื่องที่ hobbyists สามารถ “คนจรจัดด้วย” และทราบที่อาจเกิดขึ้นสำหรับข้อ จำกัด ดังกล่าวเพื่อยับยั้งนวัตกรรมซอฟแวร์อย่างไรก็ตามมีบางด้านนอกของ Apple ที่ได้เปล่งออกมาสนับสนุนสำหรับ iOS ปิดแบบเป็น Facebook พัฒนาโจเฮวิตต์ผู้ได้ประท้วงก่อนหน้านี้กับการควบคุมแอปเปิ้ลมากกว่าฮาร์ดแวร์ของมันเป็น “แบบอย่างที่น่ากลัว” ได้ที่ถกเถียงกันต่อมาปพลิเคชันที่ถูกล็อกใน iPad จะคล้ายกับการใช้งานเว็บและให้การรักษาความปลอดภัยเข้ามา




วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

สรุปผลการเรียนวันที่ 11 กันยายน 2556

การจัดการหน่วยความจำหลักแบบดีมานด์เพจ (Demanded Paged Memory Management)
การพัฒนาการจัดการหน่วยความจำหลักแบบดีมานด์เพจ ที่กำหนดให้เรียกเฉพาะเพจที่ต้องการใช้งานเท่านั้นเข้ามาบรรจุในหน่วยความจำหลัก โดยนำเอาการสับเปลี่ยนเพจ (Page Swapping) เข้ามาช่วยในการทำงาน จะเห็นได้ว่าเป็นการสับเปลี่ยนเฉพาะเพจที่ต้องการใช้เข้ามาไว้ในหน่วยความจำหลัก กล่าวคือ เป็นการสับเปลี่ยนเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
อัลกอริธึมการแทนที่เพจ (Page Replacement Algorithm)
เพื่อเรียกเพจที่ต้องการใช้แต่ไม่อยู่ในหน่วยความจำหลัก ให้เข้าไปอยู่ในหน่วยความจำหลัก ในกรณีที่หน่วยความจำหลักไม่มีที่ว่าง ระบบปฏิบัติการจำเป็นต้องพิจารณาเลือกเอาบางเพจออกจากหน่วยความจำหลัก เพื่อให้ได้เฟรมว่าง (free frame)
อัลกอริธึม First In First Out (FIFO)
เป็นอัลกอริทึมที่ง่ายที่สุดในการแทนที่เพจ การทำงานของอัลกอริธึมสามารถแสดงให้เห็นชัดเจนด้วยการทำเพจเทรซ (page trace) ซึ่งแสดงให้เห็นในเพจที่บรรจุหน่วยความจำหลัก เมื่อระบบเรียกใช้เพจต่างๆ โดยกำหนดให้
P คือ เพจที่ถูกเรียกใช้ในการประมวลผล
M คือ จำนวนเฟรมของหน่วยความจำหลัก
F คือ จำนวนช่วงเวลาที่เกิดเพจฟอลท์ แสดงโดยใช้เครื่องหมาย +
อัลกอริธึม Least Recently Used (LRU)
ระบบนี้จะเลือกเพจที่อยู่ในหน่วยความจำหลัก ที่ไม่ได้ถูกเรียกใช้นานที่สุดออกไปจากหน่วยความจำหลักอย่างไรก็ตาม เราพบว่าอัลกอริธึมนี้มีปัญหาในเรื่องการประยุกต์เพื่อให้ได้มาซึ่งระบบที่ใช้การแทนที่เพจแบบ LRU ซึ่งอาจจำเป็นต้องมีฮาร์ดแวร์เข้ามาช่วยในการบันทึกเวลาที่มีการอ้างอิงแต่ละเพจครั้งล่าสุด เช่น การใช้ตัวนับ (Counter) และสแตก (Stack)
- ตัวนับ (Counter)
เวลาการใช้งาน (time-of-use) จะเลือกเพจที่มีค่าการใช้งานน้อยที่สุด (ไม่ได้ถูกใช้นานที่สุด)
- สแตก (Stack)
ถ้าเป็นหมายเลขที่อยู่ในสแตก จะนำหมายเลขนั้นไปไว้ที่ส่วนบนสุดของสแตก (top of stack) ดังนั้นเพจที่อยู่ตำแหน่งบนสุดของสแตกจะเป็นเพจที่ถูกเรียกใช้มากที่สุด
อัลกอริธึม LRU Approximation
พิจารณาจากค่าของบิตอ้างอิงของเพจนั้นๆ ถ้าบิตอ้างอิงของเพจมีค่าเป็น 0 แสดงว่า เพจนั้นไม่เคยถูกเรียกใช้งานเลย แต่ถ้าบิตอ้างอิงของเพจมีค่ามากกว่า 0 แสดงว่าเพจนั้นได้ถูกเรียกใช้งาน
อัลกอริธึมการจัดสรรเฟรม (Frame Allocation Algorithm)
อัลกอริธึมการจัดสรรเฟรม ได้แก่
การจัดสรรจำนวนเท่ากัน (Equal Allocation)
การจัดสรรจำนวนเป็นสัดส่วน (Proportional Allocation)
การจัดสรรตามลำดับความสำคัญ (Priority Allocation)
 ระบบรับเข้า/ส่งออก (Input/Output System)
ฮาร์ดแวร์ของการรับเข้า/ส่งออก (Input/Output Hardware)
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับบันทึกข้อมูล เช่น ดิสก์, เทป
อุปกรณ์ช่วยในการส่งผ่านข้อมูล เช่น networks carde, โมเด็ม
อุปกรณ์ช่วยในการติดต่อระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น จอภาพ, แป้นพิมพ์, เมาส์
วิธีติดต่อระหว่างซีพียูกับอุปกรณ์มีดังนี้
การแมพหน่วยความจำ (Memory-Mapped I/O : MMIO)
รีจิสเตอร์ที่สำคัญ คือ รีจิสเตอร์สถานะ และรีจิสเตอร์คำสั่ง
รีจิสเตอร์สถานะ ทำหน้าที่ควบคุมสถานะของอุปกรณ์รับเข้า/ส่งออก  รีจิสเตอร์สถานะมีค่าเป็น 1 เมื่ออุปกรณ์ไม่ว่าง และให้มีค่าเป็น 0 เมื่ออุปกรณ์ว่าง
รีจิสเตอร์คำสั่ง คำสั่งมีค่าเป็น 1 เมื่อมีคำสั่งให้อุปกรณ์ทำงาน และให้มีค่าเป็น 0 เมื่ออุปกรณ์ทำงานเสร็จเรียบร้อย
การแมพหน่วยความจำ วิธีนี้กำหนดให้ส่งหรือแมพ (map) รีจิสเตอร์ทุกตัวของตัวควบคุมอุปกรณ์ และบัฟเฟอร์ของอุปกรณ์ไปไว้ที่พื้นที่ของหน่วยความจำหลัก
การเข้าถึงหน่วยความจำโดยตรง (Direct Memory Access : DMA)
ต้องมีตัวควบคุม  DMA (DMA controller) ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ที่ประกอบด้วยรีจิสเตอร์จำนวนมาก
การขัดจังหวะ (Interrupts)
ซีพียูต้องมีสายสัญญาณขัดจังหวะ และชุดคำสั่งจัดการเรื่องขัดจังหวะ ในการทำงานนั้น
ซอฟต์แวร์ของการรับเข้า/ส่งออก (Input Output Software)
สามารถติดต่อกับฮาร์ดแวร์ได้โดยตรง
ความเป็นอิสระของอุปกรณ์
สามารถจัดการกับข้อผิดพลาดต่างๆที่อาจเกิดขึ้น
การรับเข้า/ส่งออกด้วยโปรแกรม (Programmed I/O)
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการรับเข้า/ส่งออกข้อมูล แต่ซีพียูต้องเสียเวลาทั้งหมดในการควบคุมการทำงาน ด้วยการตรวจสอบสถานะของเครื่องพิมพ์ ถ่ายโอนข้อมูลไปยังเครื่องพิมพ์ และรอให้เครื่องพิมพ์ทำงานเสร็จ วิธีนี้จึงเป็นการใช้งานซีพียูอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ
การรับเข้า/ส่งออกด้วยการขัดจังหวะ (Interrupt Driven I/O)
จากข้อเสียของการรับเข้า/ส่งออกด้วยโปรแกรม ซึ่งซีพียูจะต้องเสียเวลารอให้อุปกรณ์รับเข้า/ส่งออกทำงานจนเสร็จ จึงได้นำการขัดจังหวะเข้ามาช่วยในการควบคุมการรับเข้า/ส่งออก
การรับเข้า/ส่งออกด้วยการเข้าถึงหน่วยความจำโดยตรง (I/O using DMA)
มีการควบคุมการรับเข้า/ส่งออกข้อมูลโดยใช้ตัวควบคุม DMA ที่ทำให้ระบบสามารถเข้าถึงหน่วยความจำโดยตรง ขณะที่ซีพียูสามารถสลับไปทำงานอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลารอการทำงานของอุปกรณ์ หรือรอการถ่ายโอนข้อมูลตลอดจนซีพียูไม่ต้องเสียเวลาในการขัดจังหวะ
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับบันทึกข้อมูล (Storage Devices)
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับบันทึกข้อมูล เช่น ดิสก์, เทป, ซีดีรอม ฯลฯ อุปกรณ์เหล่านี้ถูกใช้เป็นหน่วยความจำสำรองสำหรับบันทึกข้อมูลขนาดใหญ่ที่ยังไม่ต้องการประมวลผล
โครงสร้างของดิสก์ (Disk Structure)
การจัดเนื้อที่บนดิสก์แม่เหล็กได้มีการจัดแบ่งออกเป็น แทร็ก (track) และ เซคเตอร์ (sector)
ความเร็วในการทำงานของดิสก์ ขึ้นกับปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ
อัตราการถ่ายโอนข้อมูล
อัตราเวลาการค้นหาตำแหน่ง
             - ระยะเวลาการค้นหา
             - ระยะเวลาที่ใช้หมุนดิสก์
การจัดรูปแบบดิสก์ (Disk Formatting)
การจัดรูปแบบระดับต่ำ
การแบ่งดิสก์
การจัดรูปแบบระดับสูง
การจัดเวลาการใช้ดิสก์ (Disk Scheduling)
การเรียกใช้งานฮาร์ดแวร์อย่างมีประสิทธิภาพ  การจัดการใช้ดิสก์ที่สำคัญมีดังนี้
การจัดการเวลาแบบมาก่อนได้ก่อน (First Come First Serve Scheduling : FCFS)
การจัดการเวลาแบบสั้นที่สุดได้ก่อน (Shortest Seek Time First Scheduling : SSTF)
การจัดการเวลาแบบสแกน (Scan Scheduling : SCAN)
การจัดการเวลาแบบซี – สแกน (Circular Scan Scheduling : C-SCAN)

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

หน่วยความจำเสมือน

หน่วยความจำเสมือน (Virtual Memory)
เป็นวิธีการที่สามารถให้กระบวนการทำงานได้แม้จะไม่ได้อยู่ในหน่วยความจำหลักทั้งตัวก็ตาม ข้อดีหลักของวิธีนี้ที่เห็นได้ชัด คือ โปรแกรมของผู้ใช้อาจมีขนาดใหญ่กว่าหน่วยความจำจริงก็ได้ วิธีนี้สร้างหน่วยความจำทางตรรกะให้ดูเสมือนเป็นแถวลำดับ (Array) ขนาดใหญ่ โดยแยกภาพที่ผู้ใช้มองเห็นหน่วยความจำออกจากลักษณะจริงของฮาร์ดแวร์ ทำให้ผู้เขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้อย่างอิสระไม่ต้องกังวลถึงขนาดของหน่วยความจำอีกต่อไป การสร้างหน่วยความจำเสมือนไม่ใช่ของง่าย และอาจทำให้ประสิทธิผลของระบบลดลงได้อย่างมาก ถ้าไม่รอบคอบพอ ในบทนี้เราจะวิเคราะห์หน่วยความจำเสมือนในระบบจัดสรรหน้าตามคำร้องขอ (Demand Paging) เพื่อดูความซับซ้อนของระบบและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
การแบ่งปล้อง
เนื่องจากหน่วยความจำเสมือนนี้แยกตัวเป็นเอกเทศจากหน่วยความจำจริง ดังนั้นผู้ออกแบบจะกำหนดรูปลักษณ์ของหน่วยความจำเสมือนอย่างไรก็ได้ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ระบบการแบ่งปล้อง (segmentation) เป็นการจัดการหน่วยความจำหลัก ซึ่งพิจารณาถึงการใช้หน่วยความจำในแง่มุมของผู้ใช้เป็นหลัก
หลักกการของการแบ่งปล้อง
โดยปกติโปรแกรมจะประกอบด้วยหลายๆ หน่วยทางตรรก (logical unit) เช่น โปรแกรมย่อยและข้อมูล ดังนั้นในระบบแบ่งปล้องนี้ เนื้อที่หน่วยความจำเสมือนจะถูกแบ่งออกเป็น ปล้อง (segment) ซึ่งสมนัยกับการแบ่งงานออกเป็นหน่วยทางตรรก โดยแต่ละปล้องจะมีขนาดใหญ่เท่ากับขนาดของหน่วยของงานหน่วยนั้นๆ ที่บรรจุอยู่ ปล้องหนึ่งๆ อาจบรรจุโปรแกรมย่อยหนึ่งของงานหรืออาจบรรจุข้อมูลชุดหนึ่งก็ได้
การอ้างอิงจุดใดๆ ในโปรแกรมหรือข้อมูล สามารถทำได้โดยอ้างถึงชื่อของปล้องที่บรรจุจุดนั้น และตำแหน่งของจุดนั้นเทียบกับจุดเริ่มต้นของปล้อง ด้วยเหตุนี้ปล้องต่างๆ ของโปรแกรมเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องอยู่เรียงต่อกันในหน่วยความจำจริง หรือหากปล้องไหนไม่ได้ใช้ก็สามารถเก็บปล้องนั้นไว้ในหน่วยความจำรองได้ เพื่อเปิดทางให้กับปล้องของงานอื่น เข้าไปใช้หน่วยความจำจริงได้
ข้อดีและข้อเสียของระบบปล้อง
ประการแรกคือ ผู้เขียนโปรแกรมไม่ต้องทำการตัดแบ่งโปรแกรมหรือข้อมูลเพื่อทำทับซ้อนเอง เพราะการทับซ้อนในระบบแบ่งปล้องทำโดยระบบปฏิบัติการนอกเหนือจากนั้น การทับซ้อนโดยอัตโนมัตินี้ยังสามารถทำได้ระหว่างโปรแกรมอีกด้วย คือปล้องที่ต้องการจากหน่วยความจำรองของกระบวนการหนึ่งสามารถเข้ามาไล่ที่ปล้องของกระบวนการอื่นที่ไม่ได้ใช้ในขณะนั้นได้ เพราะระบบได้ทำการบันทึกแฟล็กต่างๆ ไว้แล้วว่าปล้องใดอยู่ในหน่วยความจำแบบใด ข้อดีอีกประการหนึ่งคือ การแบ่งปล้องนั้นเป็นไปตามการแบ่งทางตรรกของงาน ดังนั้นปล้องจึงถือได้ว่าเป็นหน่วยของการเชื่อมส่วนต่างๆ ของงานเข้าด้วยกันที่เรียกว่า การเชื่อมโยง (linkging) ดังนั้นการเชื่อมโยงจึงสามารถทำได้โดยง่าย โดยกำหนดโปรแกรมผล เช่น โปรแกรมย่อยสำหรับหาค่า sine ให้เป็นปล้องหนึ่ง เนื่องจากการอ้างอิงตำแหน่งใดๆ ในโปรแกรมผลนี้เป็นการอ้างอิงแบบโยกย้ายได้ทั้งหมด จึงเป็นการง่ายสำหรับโปรแกรมระบบในการเชื่อมหน่วยต่างๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน เพราะเป็นการเชื่อมโยงในหน่วยความจำเสมือน ไม่ต้องใส่ใจกับ ตำแหน่งสัมบูรณ์ในหน่วยความจำจริง เพราะการแปลงให้เป็นตำแหน่งสัมบูรณ์เป็นหน้าที่ของระบบจัดการหน่วยความจำไปแล้ว โดยเหตุที่การอ้างอิงระหว่างปล้องนั้น กระทำในรูปลักษณ์ของหน่วยความจำเสมือน ดังนั้นจึงเป็นการง่ายที่จะใช้โปรแกรมย่อยร่วมกันในระหว่างโปรแกรมต่างๆ เพราะแต่ละโปรแกรมเพียงแต่ทราบถึงปล้องที่โปรแกรมย่อยนั้นอาศัยอยู่ ซึ่งหมายถึงการบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับปล้องของโปรแกรมย่อยลงเป็นรายการหนึ่งในตารางปล้องของโปรแกรมนั้นๆ เท่านั้น แน่นอนว่าโปรแกรมย่อยนั้นต้องเป็นโปรแกรมแบบใช้ร่วมได้ (reentrant) และระบบต้องตรวจตราและเปลี่ยนแปลงทุกตารางปล้องที่อ้างอิงโปรแกรมร่วมนี้ เมื่อมีการโยกย้ายโปรแกรมร่วมไปมาในหน่วยความจำหลัก เนื่องจากหน่วยความจำเสมือนที่ผู้เขียนโปรแกรมใช้นั้น ถูกแยกออกเป็นอิสระจากหน่วยความจำหลักที่มีอยู่จริง ดังนั้นผู้ออกแบบระบบสามารถกำหนดหน่วยความจำเสมือนให้ใหญ่เพียงใดก็ได้ ทำให้ผู้เขียนโปรแกรมไม่ต้องคอยกังวลกับขนาดของโปรแกรม ข้อเสียของปล้องที่สำคัญคือการที่ปล้องต่างๆ มีขนาดไม่เท่ากัน และแต่ละปล้องต้องการเนื้อที่ที่ต่อเนื่องกันในหน่วยความจำจริง ทำให้เกิดปัญหาการจัดสรรในลักษณะการจักสรรแบบแปรตอน เช่น ทำให้เกิดสภาพหน่วยความจำหลักขาดวิ่น เป็นต้น
การแบ่งแผ่น
การจัดการหน่วยความจำหลักแบบแบ่งปล้องตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น เป็นวิธีกำหนดหน่วยความจำมโนทัศน์ ซึ่งต้องอาศัยความต้องการของผู้ใช้ระบบหรือผู้เขียนโปรแกรมเป็นหลัก สำหรับวิธีการจัดการหน่วยความจำหลักที่จะกล่าวถึงนี้ เป็นวิธีการลดความซับซ้อนของการแปลงระหว่างหน่วยความจำมโนทัศน์หรือเสมือนกับหน่วยความจำจริง
หลักการของการแบ่งแผ่น
วิธีการนี้เรียกว่าการแบ่งแผ่น (paging) ซึ่งหน่วยความจำเสมือนจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ มีขนาดเท่ากัน เรียกว่า แผ่น (page) ส่วนหน่วยความจำจริงก็ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ มีขนาดเท่ากับแผ่นเช่นเดียวกัน เรียกว่า ช่องใส่แผ่น (page frame) ดังนั้นโปรแกรมและข้อมูลที่บรรจุอยู่ในหน่วยความจำเสมือนจะถูกแบ่งออกตามการแบ่งเป็นแผ่นๆ ไปด้วย ดังนั้นสารสนเทศแต่ละแผ่นจะบรรจุลงในแต่ละช่องใส่แผ่นได้พอดีและในทำนองเดียวกับระบบแบ่งปล้อง ในรายการของแต่ละแผ่นจะมีแฟล็กบอกว่าแผ่นนั้นอยู่ในหน่วยความจำหลักหรือไม่ หากอยู่ก็ทำการแปลงตำแหน่งดังกล่าวทันที แต่ถ้าไม่ ระบบปฏิบัติการต้องอ่านเอาแผ่นที่ต้องการเข้ามาจากหน่วยความจำรอง ลักษณะการที่แผ่นที่ต้องการไม่อยู่ ในหน่วยความจำหลักนี้เรียกว่า การขาดแผ่น (page fault) ในระบบแบ่งแผ่นจะมีมาตรการสองอย่างที่สำคัญคือ มาตรการในการนำเข้า (fetch policy) ซึ่งโดยปกติใช้แบบการนำเข้าตามต้องการ (demand paging) และมาตรการในการแทนที่ (replacement policy) เพื่อเลือกแผ่นที่จะถูกแทนที่โดยแผ่นที่ถูกนำเข้ามาจากหน่วยความจำรอง
ข้อดีข้อเสียของการแบ่งแผ่น
ข้อดี : บางประการของการแบ่งแผ่นคล้ายคลึงกับการแบ่งปล้อง เช่น การทับซ้อนโดยอัตโนมัติ รวมถึงการแปลงตำแหน่งเสมือนไปเป็นตำแหน่งจริงโดยระบบทำให้เอง และการมีหน่วยความจำเสมือนที่ใหญ่กว่าของจริงได้ นอกเหนือจากนี้ การแบ่งแผ่นยังมีข้อดีอีกประการหนึ่ง คือ การที่แต่ละแผ่นเท่ากันหมด ดังนั้นในทางกายภาพ แผ่นใดจะสวมใส่อยู่ในช่องใส่แผ่นใดก็ได้ ทำให้ลดความซับซ้อนในการบรรจุแผ่นลงในหน่วยความจำหลัก และตัดปัญหาการขาดวิ่นของหน่วยความจำหลัก
ข้อเสีย : ของการแบ่งแผ่นคือ เป็นลักษณะการแบ่งด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งการแบ่งเช่นนี้ไม่เป็นไปตามตรรกการแบ่งหน่วยของโปรแกรมและข้อมูล ทำให้การเชื่อมโยงส่วนต่างๆ ของงานเดียวกันหรือระหว่างหลายงานซับซ้อนขึ้น
ระบบผนวก
ระบบแบ่งปล้องและแบ่งแผ่นที่ได้กล่าวแล้วนั้น ต่างก็มีข้อดีที่เสรมิสมรรถนะของระบบคอมพิวเตอร์ขึ้นมาก แต่ในแต่ละวิธีการนี้ยังมีข้อเสียอยู่ การกำจัดข้อเสียบางประการสามารถทำได้โดยผนวกวิธีการทั้งสองเข้าด้วยกัน การผนวกนี้กระทำได้ในสองลักษณะคือ การผนวกแบบแบ่งปล้องเป็นแผ่น และการผนวกแบบแบ่งปล้องตารางแผ่น
การผนวกแบบแบ่งเปล้องเป็นแผ่น
วิธีการผนวกระบบปล้องและแผ่นเข้าด้วยกัน แบบนี้เรียกว่า การผนวกแบบแบ่งปล้องเป็นแผ่น (paged segmentation) วิธีการนี้พยายามแก้ไขลักษณะสองประการที่ไม่ดีของปล้อง ประการแรกคือการที่ปล้องมีขนาดไม่เท่ากัน ทำให้ลำบากต่อการบรรจุโปรแกรมลงในหน่วยความจำหลัก ประการที่สองคือการที่โปรแกรมอาจใหญ่หรือรหัสส่วนมากในโปรแกรมไม่ค่อยได้ใช้ จึงไม่จำเป็นต้องนำเข้ามาหมดทั้งปล้อง แต่จะนำเฉพาะส่วนของปล้องที่ต้องการใช้เข้ามาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงใช้วิธีการแบ่งแผ่นมาแบ่งปล้องออกเป็นแผ่นมีขนาดเท่าๆ กัน ทำให้แก้ปัญหาทั้งสองที่เกิดขึ้นกับระบบปล้องนี้ได้
การผนวกแบบแบ่งปล้องตารางแผ่น ในระบบแบ่งแผ่นที่มีขนาดของหน่วยความจำเสมือนใหญ่มากๆ ขนาดของตารางแผ่นก็ใหญ่ตามไปด้วย เนื่องจากหน่วยความจำเสมือนที่มีขนาดใหญ่มากๆ โดยปกติถูกใช้เพียงส่วนน้อยเท่านั้น เนื้อที่ส่วนใหญ่จึงว่าง ดังนั้นรายการสำหรับแผ่นของบริเวณที่ว่างจะไม่มีความจำเป็น จึงสามารถตัดแบ่งตารางแผ่นออกเป็นส่วนหรือเป็นปล้อง โดยเก็บเฉพาะปล้องที่บรรจุรายการแผ่นที่ไม่ว่างเท่านั้น ลักษณะนี้เรียกว่าการผนวกแบบแบ่งปล้องตารางแผ่น (segmented paging)
การใช้สารสนเทศร่วมกัน
ในระบบสารสนเทศโดยทั่วไปแล้ว การใช้โปรแกรมหรือข้อมูลร่วมกันจะช่วยลดความซ้ำซ้อนและความลักลั่นระหว่างงานของผู้ใช้ต่างๆ กันได้ สำหรับในระบบมัลติโปรแกรมมิ่งแล้ว การใช้สารสนเทศร่วมกันยังหมายถึงการประหยัดเนื้อที่ในหน่วยความจำด้วย เช่น หากมีสามกระบวนการต้องการแปลโปรแกรมด้วยตัวแปลภาษาฟอร์แทรนในเวลาเดียวกัน หากไม่มีการใช้โปรแกรมร่วมกัน กระบวนการทั้งสามก็ต้องมีสำเนาของตัวแปลภาษาฟอร์แทรนไว้กระบวนการละชุด ทำให้สิ้นเปลืองกว่ามีตัวแปลภาษาฟอร์แทรนปรากฏอยู่ในระบบให้ดำเนินได้เพียงชุดเดียว แต่ทั้งนี้ในระบบหน่วยความจำเสมือน นอกจากว่าโปรแกรมที่ใช้ร่วมกันจะต้องเป็นแบบใช้ร่วมกันได้ (reentrant) แล้ว ยังมีปัญหาว่า แต่ละกระบวนการมีตารางสำหรับแปลงตำแหน่งเสมือนที่เป็นเอกเทศแยกจากตารางการแปลงของกระบวนการอื่น ดังนั้นจึงต้องมีหลักปฏิบัติเพื่อให้ การอ้างอิงในหน่วยความจำเสมือนของหลายกระบวนการสมนัยกับตำแหน่งจริงของสารสนเทศที่ใช้ร่วมกันนั้น